ไปสอบ กพ. ภาค ก จากปากเกร็ดไปม.ราม


จะเป็นข้าราชการ ก็ต้องไปสอบ กพ. ผมขอนำเสนอการเดินทาง ไปสอบ กพ. ภาค ก จากปากเกร็ดไปม.ราม1 (มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก) ซึ่งเป็นวิธีที่ผมได้ใช้ เมื่อยามไปสอบ กพ.

ผมขอเรียกมันว่า การเดินทางเพื่อตามความฝัน จากปากเกร็ดไปม.ราม ฮ่าๆ

เส้นทางที่ 1 รถตู้มาหา ณ เธอ
– นั่งรถตู้ “สาย ปากเกร็ด-ม.ราม1” รอรถได้ที่ ตลาดปากเกร็ด, หน้าเมเจอร์ปากเกร็ด, ตามป้ายถนนแจ้งวัฒนะ (ป้ายนั้นต้องอยู่ก่อนสะพานหลักสี่นะครับ) ช่วงเวลารถตู้ ก็ วันธรรมดา 6.00 น.- 19.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ นั้นไม่แน่นอนครับว่า มากี่โมง น่าจะ 7.00 น.- 19.00 น. ราคาอยู่ที่ 25 บาท ระยะเวลาการเดินทางก็ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แปรผันตามสภาพจราจรและช่วงเวลา ครับ ในส่วนนี้ สามารถ คำนวณเวลาได้จาก Google Maps นะครับ

เส้นทางที่ 2 รถเมล์ โหนแล้วทัก
– นั่งรถเมล์ อันนี้มีหลายสายให้เลือกครับ แล้วแต่สะดวก แต่ก็ต้องต่อรถเมล์อีกที ประมาณ 2 ต่อครับ
สายแรก “166 จากปากเกร็ด-ไปอนุเสาวรีย์” หลังจากนั้น ไปต่อรถเมล์สาย “32 อนุเสาวรีย์-หัวขวาง” ที่ป้ายหน้า แฟชั่นมอล์ล ราคาอยู่ที่ 166 ก็ 19 บาท ส่วน 32 นั้น 8 บาทตลอดสาย(รถธรรมดา) รวมแล้วก็ 27 บาท ระยะเวลาการเดินทาง ก็ประมาณ 1-2 ชั่วโมง แปรผันตามสภาพจราจรและช่วงเวลา ครับ (วิธีนี้ผมใช้ไป ม.ราม1 ครับ ตอนนั้นออกปากเกร็ดตอน 6.30 น. ไปถึงอนุเสาวรีย์ ประมาณ 7.00 น. รอรถเมย์สาย 32 ประมาณ 15-30 นาที ออกจากอนุเสาวรีย์ ไปถึง ม.ราม1 ประมาณ 45 นาที เบ็ดเสร็จเดินทางใช้เวลา ไม่เกิน 1 ชั่วโมง ครึ่ง)

ปล. จากอนุเสาวรีย์ เราสามารถเลือกที่จะต่อรถเมล์ได้ เช่น 32, 167, 92 อัตราความเร็วนั้นก็ 32 กับ 167 น่าจะพอๆกันส่วน 92 นั้นเขาว่ากันว่าวิ่งอ้อม

สายสอง “150 จากปากเกร็ดไปบางกะปิ” ลงที่ฝั่งตรงข้ามเดอะมอล์ลบางกะปิ แล้วเดินไปที่ปากทาง แอปปี้แลนด์ แล้วต่อ รถเมล์ สาย 92 หรือ 122 ระยะเวลาไม่แน่ใจครับเพราะผมยังไม่ได้ลอง

ของแถม
คราวนี้มาพูดถึงการสอบ กพ. ภาค ก นะครับ จากประสบการณ์ที่ผม
ไปสอบมานั้น ผมว่าข้อสอบไม่ได้ยากอย่างที่ผมคิดไว้ครับ ถ้าใครเตรียมตัวมาดีๆ ผมว่าสอบผ่าน 60% อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องเสียตังค์ไปติว แค่เอาเวลามาอ่านหนังสือ อ่านข้อสอบเก่าก็พอครับ
อืม.. พอดีผมไปสอบ เห็นป้ายติดไว้ว่า “ติวแล้วสอบไม่ผ่านยินดีคืนเงิน” ดังนั้นถ้าข้อสอบยาก คงไม่มีใครกล้าการันตีขนาดนี้
ข้อสอบมีอยู่ 80 ข้อครับ (60% ก็ตกอยู่ที่ 48 ข้อ ถ้าทำได้เกิน 48 ข้อก็ผ่านครับ) โดยแบ่งออกเป็น ความรู้ทั่วไป 40 ข้อ และ ภาษาไทยอีก 40 ข้อ
ความรู้ทั่วไปนั้น ก็จะมีพวกคำถามเกี่ยวกับ อนุกรม, ความน่าจะเป็น, การคิดค่าเฉลี่ย โดยรวมๆแล้ว จะออกไปทางคณิตศาสตร์ สักมากกว่า
ส่วน ภาษาไทยนั้น ก็จะมีพวกคำถามเกี่ยวกับ การใช้คำ, การสรุปใช้ความ, การตีความหมายประโยค, การเรียงลำดับประโยค โดยรวมๆ ผมว่าง่ายกว่าความรู้ทั่วไปอีก
เทคนิคของผมในการทำข้อสอบนั้น ผมทำภาษไทยก่อนครับ หลังจากนั้นค่อยทำความรู้ทั่วไป อยากลืมนะครับเวลาเป็นสิ่งสำคัญนะครับ 80 ข้อ กับเวลา 2 ชั่วโมง ครึ่ง ไม่เยอะนะครับ (ต้องยอมรับเลยว่าผมทำไม่ทัน อีกอย่าง ผมไม่ได้เตรียมตัวกับการสอบครั้งนี้เลย แต่คิดว่าน่าจะได้เกิน 60% แน่ๆ ผมไม่ได้โม้นะ “ต้องคิดบวกเขาไว้”)

ปล. การสอบไม่ใช่ทุกสิ่งนะครับ ถ้าผิดหวัง ปีหน้าก็มีครับ ถ้าสอบไม่ผ่าน ไม่ต้องโทษใครนะครับ โทษตัวเองว่ายังเตรียมตัวไม่ดีพอ กลับไปเตรียมตัวมาใหม่แล้วมาสอบต่อ บางคนมาสอบมากกว่า 5 ครั้งด้วยซ้ำ สู้ๆนะครับ ได้ไปเป็นข้าราชการแล้ว อย่ากินบ้านกินเมืองนะครับ!